การทำสังฆทานนั้น ต้องใช้ดอกไม้ให้ครบสามสี (สิ่งที่ห้ามคือ ดอกกุหลาบ ดอกเข็ม เพราะว่า มีหนาม เปรียบเหมือนเข็มที่ที่มแทง จะใช้ดอกไม้นี้สําหรับงานไหว้ ครู จะได้มีสติปัญญา เฉียบแหลม สําหรับสังฆทานห้าม) ธูป เทียน น้ํา กับข้าว ใส่ถุงอย่างละถุง ขนมหวาน หรือผลไม้ให้ครบ ข้าวสวย ปัจจัย (เงิน) เกินอายุ ไม่ต่ํากว่า ๑ บาท (เป็นการค้ําอายุ) โดยทําให้ตรงกับวันเกิดของเราในรอบสัปดาห์ เช่น เกิดวัน จันทร์ ก็ให้ทําตรงกับวันจันทร์
และสมควรให้ทําอย่างน้อยเดือนละครั้ง หรือมากกว่านั้นตามแต่โอกาส โดยเราจะต้องไม่เดือดร้อนเรื่องเงินที่จะซื้อของสังฆทานไม่ใช่ทําแล้ว ไม่มีเงินซื้อข้าวกินไม่แนะนําให้ทํา เพราะเราเบียดเบียนตัวเราเองจะ ทําให้เกิดทุกข์ ควรพร้อมทั้งกายใจและกําลังทรัพย์ ถ้าจะทําด้วย เครื่องกระป๋อง ต้องเปิดฝาเสียก่อน เช่น เงาะกระป๋อง
การทําสังฆทานสด ต้องทําก่อนเที่ยง เพราะพระรับแล้ว แค่เพล ถ้าพระฉันไม่หมดจะต้องให้เป็นทานไป ถ้าเอาไปเลี้ยง ที่ถือศีล ส่วนเขาจะให้พระและแผ่ ตาให้เราก็จะได้บุญอีกต่อหนึ่ง หรือให้คนเฒ่าคนแก่ไป บางคน
ให้พร หรือเอาไปให้ทานเลี้ยงสัตว์ มันจะได้อานิสงส์มากกว่า การทําบุญตักบาตรอยู่ทุกวัน เพราะสังฆทานนี้เราเจาะจงที่จะอุทิศ ไปให้ใครโดยตรงให้เขา เขาก็จะได้รับเต็ม ๆ เปรียบเสมือนเรามีน้ําอยู่ หนึ่งแก้ว เราให้คนที่เราอุทิศให้ดื่มหมดแก้วเขาจะชื่นใจ มากกว่าที่ เราอุทิศให้หลายคน เราก็จะต้องแบ่งน้ําหรือให้เขาจิบน้ําคนละอีกยัง ไม่หายชื่นใจ
เวลาทําสังฆทาน ต้องทําจิตใจให้เป็นบุญคือ ทําใจให้สบาย ไม่ หงุดหงิด ทะเลาะกัน เป็นกิริยาบุญแล้วเราจะได้บุญเต็มที่และจะได้ มีสายบุญไว้ เวลาที่เจอพระ เมื่อเรามีปัญหาจะได้ ช่วยได้ง่ายและไม่เหนื่อยมาก เพราะต้องใช้กําลังจิตสูง เมื่อเราช่วย ตัวเองครึ่งหนึ่งพระช่วยครึ่งหนึ่งมันจะได้ผล เพราะการช่วยคนที่มี เคราะห์ พระจะต้องสร้างบารมีต้องช่วยคนที่มีทุกข์ บางเรื่องก็ต้อง รับเอาเคราะห์นั้นไว้เองถ้าเจ้าตัวช่วยด้วย พระท่านจะเบาลง โดยสังฆทานสดนี้ ถ้าทํากับพระที่ปฏิบัติถึงขั้นใดขั้นหนึ่งแล้ว ท่าน จะรู้และจะเห็นเจ้ากรรมนายเวรคนนั้น บางครั้งจะเห็นเขามารับเอา ส่วนบุญ ถ้าเขาขาดเหลืออะไรหรือเราทําอะไรไม่ถูกต้องครบถ้วน เขาจะสือให้พระท่านทราบแล้วท่านจะบอกให้เราแก้ไขเสีย
สังฆทานสดที่ทํานี้ ถ้าเราตั้งใจอุทิศให้ใครทั้งที่มีชีวิตอยู่ หรือ ไม่มีชีวิตอยู่ก็ดี อาจจะเป็นเจ้ากรรมนายเวร ศัตรู ลูกค้า ลูกหนี้ คน ที่ไม่ถูกกัน หรือโดนกลั่นแกล้ง คู่ความ เจ้านาย ลูกน้อง ฯลฯ จะ ทําให้จิตใจอ่อนลง มีเมตตาเรา จากสถานการณ์ร้ายๆ จะกลับกลาย เป็นดี หรือเวลาเราไปติดต่อธุรกิจก็มักจะได้ผลในเชิงบวกเสมอ
เวลาเราอุทิศหรือกรวดน้ําไปให้ ข้อสําาคัญที่สุด ห้าม! แช่งด่า เด็ดขาด เพราะถ้าเราทําเช่นนั้น มันจะรับไปคนละครึ่ง ดังนั้นให้ กรวดน้ําอุทิศไปให้ใคร ให้เราให้พรและแผ่เมตตาไปให้เขามีความสุข ความเจริญ ทุกข์ก็ขอให้พ้นจากทุกข์ สุขก็ขอให้สุขยิ่งๆขึ้นไป คิด สิ่งใดให้สมปรารถนา เพราะเมื่อเขาดีขึ้น ก็ไม่มาเบียดเบียนเรา แล้ว จะส่งผลให้สิ่งที่เราหวังไว้สําเร็จ เพดาน
สังฆทานสดไม่จําเป็นต้องทําที่วัด ถ้าเรามีเวลาน้อย ก็ทํากับ พระที่กําลังบิณฑบาตอยู่ก็ได้ โดยให้บอกกับท่านว่าเราทําสังฆทาน ท่านจะให้พร ตอนนั้นหรือไม่ก็แล้วแล้วแต่ไม่ต้องกังวล ถ้าให้พรเรา ก็กรวดน้ําไปให้ ถ้าไม่ให้พรตอนนั้นเราค่อยกรวดน้ําทีหลังหรือไม่ กรวดน้ําก็ยังได้ เพราะเราตั้งใจอธิษฐานอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลที่เรา ทําไปให้ใครมันก็สําเร็จแล้ว แต่ถ้าเรามีเวลาไปที่วัด บางวัดจะต้อง ให้เรารับศีลก่อนแล้วค่อยทําสังฆทาน ถ้าเป็นอย่างนี้จะเป็นการดี มาก เพราะเราจะได้ถือศีลด้วย อย่าทําเพราะกลัวตาย อย่าทําเพื่อ หวังผล อย่าทําเพราะอยากได้ ให้ทําด้วยใจบริสุทธิ์ ตั้งใจจริง ต้องมี ความเชื่อ ความศรัทธา ความนับถือ เป็นพื้นฐาน แล้วทําสังฆทาน ถือศีล ภาวนา ต้องถือให้จริง ทําให้จริง แล้วจะได้ผลดีจริงๆ
สังฆทานสดได้ผลมากกว่าที่ทําสังฆทานทั่วไป ท่านอธิบายว่า สังฆทาน คือ การทําบุญอุทิศให้กับผู้ที่เราเฉพาะเจาะจง พระก็ เปรียบเสมือนสื่อกลางที่สําคัญ ถ้าพระท่านได้ใช้เลยหรือฉันเลย ก็ จะทําให้ผู้ที่เราเจาะจงทําสังฆทานได้รับของจากเรา หรือได้รับบุญที่ เราทําให้ในทันที แต่ปัจจุบันนี้สังฆทานที่เป็นกระป๋องนานๆ ที พระ จึงจะนํามาใช้ หรือบางครั้งก็เอาไปขาย บางครั้งก็เอาไปเวียนกลับมา ทําใหม่ ซึ่งคนที่เขารอก็ไม่ได้ของ ไม่ได้บุญที่เราทําให้ หรือกว่าจะได้ ก็ช้าทําให้ได้ผลช้า